Category: <span>อุทยานแห่งศรัทธา</span>

อุทยานแห่งศรัทธา

นอกจากจะเป็นพระประจำวันเกิดของคนที่เกิดวันพุธกลางคืน พระพุทธรูปปางป่าเลไลย์หรือป่าลิไลยก์ เป็นข้อเตือนใจให้ชาวพุทธทั้งหลายประพฤติตนเป็นผู้ว่าง่าย และรู้จักรักษาความสามัคคี ย้อนไปในสมัยพุทธกาล พระภิกษุในวัดโฆสิตาราม กรุงโกสัมพี ทะเลาะวิวาทกัน แม้พระพุทธองค์ปรามแล้ว ก็ยังไม่ลงแก่กัน พระพุทธเจ้าทรงระอาพระทัยกับเหล่าภิกษุผู้ประพฤติตนเป็นผู้สอนยาก เสด็จจำพรรษาโดยลำพังในป่าแถบหมู่บ้านปาลิเลยยกะและไม่อนุญาติให้ใครเข้าเฝ้า ในการนั้นมีเพียงพญาช้างปาลิเลยยกะคอยปรนนิบัติ และลิงที่นำรวงผึ้งไปถวาย จวบจนสิ้นพรรษา บรรดาพระภิกษุผู้ว่ายากเมื่อทราบว่าพระพุทธองค์เสด็จกลับมายังพระเชตวันมหาวิหาร ก็รีบเดินทางมาเข้าเฝ้าเพื่อแสดงความสำนึกผิด

อุทยานแห่งศรัทธา

พระพุทธรูปนอนบรรทมตะแคงเบื้องขวาหลับพระเนตรที่อยู่ในวิหารนี้ชวนให้ผู้มาเยือนน้อมใจรำลึกถึงการเสด็จดับขันธ์ปรินิพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย หนึ่งในสี่สังเวชนียสถานของพุทธศาสนิกชน ที่บริเวณฐานองค์พระมีรูปนูนสูง พระอานนท์ร้องไห้ ในขณะที่พระอนุรุทธเข้าฌานติดตามว่าพระพุทธองค์ว่าอยู่ในฌานขั้นไหนก่อนปรินิพพาน และราชนิกุลราชวงศ์มัลละถวายบังคมพระพุทธสรีระ

อุทยานแห่งศรัทธา

ทันทีที่มาถึงวัด เราจะเห็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาวเด่นสง่าบนฐานดอกบัวชมพู หลวงปู่ขาวเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่องค์แรกของวัด ในยามเช้าชาวบ้านจะเตรียมอาหารมารอใส่บาตรพระสงฆ์ที่บริเวณนี้ เวลาอากาศดี เราสามารถมาศึกษาพุทธประวัติจากภาพพิมพ์บนกระเบื้องเคลือบอันงดงามบนกำแพงวิหารและฐานองค์พระ

อุทยานแห่งศรัทธา

เมื่อผ่านช้างคู่หน้าทางเข้าวิหาร จะเห็นพระพุทธเจ้าน้อยสีทององค์ใหญ่ยืนอยู่บนดอกบัว หนึ่งพระหัตถ์ชี้ขึ้นฟ้า อีกหัตถ์ชี้ลงดิน พร้อมเปล่งวาจาอันองอาจว่า “เราเป็นผู้เลิศในโลก เราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้การเกิดใหม่มิได้มี” วิหารพระพุทธเจ้าปางประสูติที่คนในวัดเรียกอย่างคุ้นเคยว่า เบบี้บูด้า เป็นดั่งตัวแทนของลุมพินีวัน ที่แคว้นอูธ ประเทศเนปาล หนึ่งในสี่สังเวชนียสถานสำคัญของชาวพุทธ

อุทยานแห่งศรัทธา

ทุกวันพระใหญ่ และค่ำวันส่งท้ายปี พุทธศาสนิกชนจะพร้อมใจหลั่งไหลมาเดินเวียนเทียน หรือสวดมนต์ข้ามปีที่ลานต้นสาละโดยมีหลวงปู่ใหญ่ปางลีลาเป็นจุดศูนย์กลาง พระพุทธรูปที่มีความสูงถึง ๒๐ เมตรองค์นี้ได้รับนามประทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ว่าพระพุทธลีลาวิลาศ

อุทยานแห่งศรัทธา

เมื่อคราวที่หลวงพ่อกล้วยเดินทางไปประเทศจีน องค์หลวงพ่อได้นำรูปพระศรีอริยเมตไตรยที่นอนยิ้มแย้มแจ่มใสบนถุงเงินถุงทองกลับมาเป็นต้นแบบให้คนวัดช่วยกันสร้างขึ้น แม้พระศรีอริยเมตไตรยองค์นี้จะเป็นศิลปะแบบจีน แต่หลวงพ่อได้เติมรอยยิ้มแบบไทยๆไว้บนพัด ด้วยข้อความ “มั่งมี ศรีสุข ทุกคนเล๊ย”

อุทยานแห่งศรัทธา

พระธรรมจักร หรือกงล้อธรรม ประดิษฐานที่วิหารธรรมจักรในสวนมะลิวัลย์ วิหารนี้เป็นวิหารแห่งเดียวที่ไม่มีรูปพระพุทธเจ้า แต่กลับมีเพียงสองในองค์สามแห่งพระรัตนตรัยคือ พระธรรมจักรอันเป็นสัญลักษณ์ของพระธรรม และรูปสำริดหลวงพ่อกล้วยเพื่อเป็นตัวแทนพระสงฆ์ นี่คือปริศนาธรรมเชื้อเชิญให้ผู้ที่มาเยือน สัมผัสให้ถึงองค์สามแห่งพระรัตนตรัยที่กายที่ใจตน ดังพุทธพจน์ที่ว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา”

อุทยานแห่งศรัทธา

มื่อครั้งพระพุทธองค์ประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขที่ร่มไม้จิก เกิดฝนตกพรำไม่ขาดสายตลอด ๗ วัน พญานาคมุจลินท์ ผู้เป็นราชาแห่งนาค ได้ทำขนดล้อมพระวรกาย ๗ ชั้น แล้วแผ่พังพานใหญ่ปกคลุมเบื้องบน ด้วยความประสงค์มิให้ฝนและลมหนาวสาดต้องพระวรกาย พระพุทธเจ้าปางนาคปรกไม่เพียงแสดงถึงพระเกียรติของพระพุทธองค์ แต่ยังชวนให้รำลึกถึงความเลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคเจ้าของพญานาคมุจลินท์ เมื่อใดที่หลวงพ่อถวายกุฏิที่พักของท่านให้ครูบาอาจารย์ที่มาเยี่ยมเยือน ท่านจะมาพำนักในกลดบนแท่นหินที่วิหารแห่งนี้

อุทยานแห่งศรัทธา

เจ้าแม่กวนอิมหรือพระอวโลกิเตศวร พระโพธิสัตว์แห่งมหากรุณา สูง ๗ เมตร ยืนตระหง่านเป็นองค์ประธาน ณ อุทยานน้ำตก เจ้าแม่กวนอิมหยกขาวองค์นี้ ถวายโดย ทพญ. ดวงเดือน วณิชวรนันท์ จากหยกดิบชิ้นเดียวกับที่ใช้แกะสลักพระพุทธรูปหยกขาว ที่ถวายโดย ทพ. สถาพร วณิชรวรนันท์ ผู้เป็นสามี ทั้งสองท่านเป็นอุบาสกอุบาสิกาคู่บารมีที่อุปถัมภ์กิจกรรมต่างๆในวัดอย่างสม่ำเสมอ

อุทยานแห่งศรัทธา