Author: <span>admin</span>

สถาบันศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรที่ต้องการติดต่อเข้ามาฝึกฝนผ่านงานจิตอาสา สามารถติดต่อ พระจิตร์ (๐๘๑-๖๔๔-๘๙๘๖) หรือ แม่ชีเจี้ยบ (๐๘๙-๘๐๑-๖๑๖๕) เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

อุทยานแห่งการงาน

ใครจะเชื่อว่าธรรมอุทยานอันร่มเย็นแห่งนี้เคยเป็นป่าช้าที่เต็มไปด้วยป่าหนามที่รกร้างน่ากลัว หลวงพ่อเปิดโอกาสให้ทั้งนักบวชและผู้ฝึกปฏิบัติรู้จักใช้การงานเป็นอุบายเจริญสติ พัฒนาจิตใจ ละความเกียจคร้านด้วยความขยัน ละความเห็นแก่ตัวด้วยความเสียสละ ฝึกฝนความรับผิดชอบ อันเป็นพื้นฐานจิตใจที่คู่ควรแก่การฝึกฝน การงานจึงเป็นวิถีชีวิตของคนที่นี่

ถ้าปรารถนาจะกวาดลานวัด  ก็มีไม้กวาดไว้บริการอยู่หลายจุด จะทำความสะอาดห้องน้ำ ก็มีอุปกรณ์จัดไว้ให้ จะช่วยงานช่าง เก็บขยะตามพื้นใส่ถังขยะที่จัดไว้ หรือช่วยงานครัว เข้าไปอาสาได้เลย

อุทยานแห่งการงาน

ใครจะเชื่อว่าธรรมอุทยานอันร่มเย็นแห่งนี้เคยเป็นป่าช้าที่เต็มไปด้วยป่าหนามที่รกร้างน่ากลัว กว่า ๓๐ ปีที่หลวงพ่อกล้วยเสียสละบากบั่นสร้างธรรมชาติที่ร่มรื่น อุดมสมบูรณ์ ที่กิน ที่พักสะดวกสบาย หลวงพ่อย้ำเตือนให้ทั้งนักบวชและฆารวาสรู้จักใช้การงานเป็นอุบายเจริญสติ พัฒนาจิตใจ ละความเกียจคร้านด้วยความขยัน ละความเห็นแก่ตัวด้วยความเสียสละ มีความรับผิดชอบ และความอ่อนน้อมถ่อมตนอันเป็นพื้นฐานจิตใจที่คู่ควรแก่การฝึกฝน การงานจึงเป็นวิถีชีวิตของคนที่นี่ ถ้ามีโอกาสมาวัด เผื่อเวลามารดน้ำต้นไม้ กวาดลานวัด เก็บขยะ  ช่วยหันผัก ล้างครัว ช่วยงานช่าง หรือ ‘ทำงาน’ อะไรก็ได้ด้วยกัน แล้วจะเข้าใจว่าทำไมหลวงพ่อจึงมักกล่าวว่า “คนวัดต้องขยัน”

อุทยานแห่งการงาน

ถ้ามาถึงวิหารหลวงปู่ขาว อย่าลืมเผื่อเวลามาชมภาพพิมพ์พระพุทธประวัติบนกระเบื้องเคลือบบนกำแพงวิหารและฐานองค์พระ ภาพพระพุทธประวัติชุดนี้ผลิตซ้ำจากต้นฉบับสมุดภาพปฐมสมโพธิกถา โดยอาจารย์ กฤษณะ สุริยกานต์ รวม ๓๔ ภาพ เริ่มเรื่องราวตั้งแต่ การอภิเษกของพระพุทธบิดาพระเจ้าสุทโธทนะและพระพุทธมารดาพระนางสิริมหามายา ไปจนถึงคราที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณะโคดมเสด็จดับขันธ์ปรินิพาน

อุทยานแห่งการเรียนรู้

เรามีแผ่นดินมีชาติให้อาศัยอย่างร่มเย็นอยู่ได้ทุกวันนี้ เพราะประเทศเรามีองค์พระมหากษัตริย์ที่เปี่ยมความสามารถ ความองอาจกล้าหาญ และความเสียสละสืบส่งกันมาทุกยุคทุกสมัย หลวงพ่อกล้วยประสงค์ให้ลูกหลานคนไทยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของบรรพรุษของแผ่นดิน ระลึกรู้ว่าไม้ใหญ่ที่ชื่อว่าชาติไทย ดำรงมั่นคงอยู่ได้ด้วยรากเหง้าที่เข้มแข็งและดีงาม จึงมอบหมายให้พระสงฆ์ และญาติธรรมวัด ร่วมกันสร้างอนุสาวรีย์ให้กับมหาราชทั้ง ๕ พระองค์ และดำริให้มีพิธีสมโภชครั้งใหญ่ในวันวิสาขบูชา พ.ศ. ๒๕๕๘ หากวัดมีพื้นที่มากกว่านี้ เราคงได้เห็นอนุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์อีกหลายพระองค์

อุทยานแห่งการเรียนรู้

เมื่อก่อนที่วัดก็มีแต่สัตว์พื้นๆเช่นไก่ ปลา สุนัข แมว จนกระทั่งหลวงพ่อดำริให้สร้างกรงเพื่ออนุเคราะห์จระเข้เผือกไร้บ้าน ให้เด็กๆที่มาวัดได้ชมและเรียนรู้ที่จะเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก หลังจากนั้นก็มีคนนำกระต่ายมาปล่อยในวัด หลวงพ่อทราบข่าวก็เมตตาให้ช่วยกันสร้างลานให้กระต่ายอยู่เป็นสัดเป็นส่วน แล้วบ้านหนูตะเภา นกยูง นกกระจอกเทศก็ตามๆกันมา

รูปภาพต่างๆ อุทยานแห่งการเรียนรู้

หลวงพ่อกล้วยตระหนักถึงปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบกับคนทั้งโลก ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติรุนแรงอย่างสึนามิ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด พายุมรสุม น้ำท่วม อากาศร้อนหนาวที่รุนแรง หรือภาวะโลกร้อนที่เกิดบ่อยขึ้นมาก หลวงพ่อไม่เพียงย้ำให้คนวัดใช้พลังงาน ใช้น้ำใช้ไฟอย่างประหยัด แต่ยังเปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้นเรื่อยๆ น้ำตกน้ำพุต่างๆ และระบบแสงสว่างในพื้นที่สาธารณะ ล้วนใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ทั้งนั้น

อุทยานแห่งธรรมชาติ

คนที่มาวัดมักบอกว่าอากาศในวัดสบายกว่าข้างนอกเยอะเลย อากาศในวัดสดชื่นได้ก็เพราะป่าไม้น้อยใหญ่ที่ช่วยกันอุ้มน้ำกันแดด ผลิตออกซิเจนให้หายใจกันได้สบายปอด อีกทั้งน้ำตกน้ำพุที่แทรกอยู่ตามจุดต่างๆ ถึง ๗ ที่ ช่วยกันลดไอร้อนในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกน้ำพุพญานาคหน้าวิหารหลวงปู่หยก น้ำตกนกยูงใกล้บ่อจระเข้ น้ำพุน้อยข้างกุฏิหลวงพ่อกล้วย น้ำพุหน้าทางเข้าพระมหาเจดีย์ น้ำตกหัวใจใกล้ซุ้มดอกไม้ธูปเทียน และน้ำพุพระโพธิสัตว์กวนอิมในสวนมะลิวัลย์ ถ้ามีเวลา แวะชมให้ครบทุกที่เลยนะ

อุทยานแห่งธรรมชาติ

นี่เป็นมุมในวัดที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน ลองเลือกม้านั่งแถวนี้สักตัว แล้วนั่งให้สบายๆ พักกิจกรรมต่างๆไว้ก่อน เลิกคิดเลิกคุย เก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋า ให้โอกาสตัวเองได้ผ่อนคลายกับการ “สักแต่ว่าฟัง” เสียงน้ำตกและเสียงระฆังจากระเบียงระฆัง หาโอกาสมานั่งสบายๆที่สัก ๕ ถึง ๑๐ นาที เพื่อสัมผัสความสงบที่ไม่เงียบ ถือเป็นมุมเก็บพลังที่ผ่อนคลายมากทีเดียว

อุทยานแห่งธรรมชาติ

ใครๆก็รักศาลาริมน้ำ ด้วยบรรยากาศโล่งโปร่งที่เปิดรับลม ๑๘๐ องศาทำให้เราสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด นั่งตรงไหนก็สบายตัว มองไปทางไหนก็สบายตา ศาลาริมน้ำจึงกลายเป็นพื้นที่อเนกประโยชน์ที่ใครๆก็ชอบ ถ้ากำลังหาที่ให้อาหารปลา นั่งอ่านหนังสือ นั่งกินขนม นั่งเงียบๆ หรือแม้แต่งีบยามบ่าย มาที่นี่ได้เลย ศาลาแห่งนี้สมดุลด้วยความสงบและความมีชีวิตชีวาที่กำลังพอดี คือไม่เงียบจนเหงา และไม่พลุกพล่านจนเกินไป

อุทยานแห่งธรรมชาติ