Author: <span>admin</span>

ถ้ามาถึงลานหลวงปู่ใหญ่ปางลีลา ให้มองหาสิงโตคู่ที่อยู่ทางขวาขององค์พระ นั่นคือจุดเชื่อมที่จะนำไปสู่อุโบสถกลางน้ำ สถานที่ประกอบสังฆกรรมที่เป็นทางการ เช่น พิธีอุปสมบท หรือสวดปาฏิโมกข์ ในเวลาที่ไม่มีพิธีกรรม อุโบสถหลังคาสูงโปร่ง ที่โอบล้อมด้วยน้ำและไม้เขียวสบายตาแห่งนี้ คือมุมสงบที่เหมาะกับการนั่งสมาธิ เดินจงกรม หรือให้อาหารปลาอย่างเงียบๆ

อุทยานแห่งธรรมชาติ

สะพานเหล็กที่แทรกกลางระหว่างน้ำกับฟ้า ทั้งซ้ายและขวาคือน้ำพุที่พ่นออกจากดอกบัวกลางน้ำ ทว่าเราจะระงับความหวาดเสียวเพื่อชื่นชมธรรมชาติอย่างสบายใจได้อย่างไร นี่เป็นที่โปรดของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เวลาที่มีเด็กๆมาทัศนศึกษาที่วัด การจราจรบนสะพานอาจติดขัดสักหน่อย ขอโอกาสและกำลังใจให้เด็กๆ ที่พยายามก้าวอย่างมั่นคง ท่ามกลางความหวั่นไหวของใจ จะว่าไปนี่เป็นจุดชมวิวและถ่ายภาพยอดนิยมเลยทีเดียว

อุทยานแห่งธรรมชาติ

หลวงพ่อกล้วยให้ชื่อสวนไม้หอมขนาด ๖ ไร่ ๑ งานนี้ว่า “สวนมะลิวัลย์” เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณแม่มะลิวัลย์ และครอบครัวเกษียรสินธุ์ ผู้บริจาคที่ดิน สวนนี้เต็มไปด้วยสารพัดไม้ดอกที่พลัดกันเบ่งบานส่งกลิ่นหอมชื่นใจตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นกัลปพฤกษ์ การเวก ชมนาด พวงโกเมน ชบา กลางสวนเป็นที่ตั้งของวิหารแปดเหลี่ยม ที่ประดิษฐานพระธรรมจักร และรูปหล่อสำริดขนาดเท่าองค์หลวงพ่อกล้วย ผลงาน อาจารย์สันติ พิเชษฐชัยกุล ภายในสวนมีลานน้ำพุ ศาลาไม้ให้นั่งพักผ่อน และแท่นหินให้กางกลดกางเต็นท์พักแรมได้อย่างสงบสบาย

อุทยานแห่งธรรมชาติ

นอกจากจะเป็นพระประจำวันเกิดของคนที่เกิดวันพุธกลางคืน พระพุทธรูปปางป่าเลไลย์หรือป่าลิไลยก์ เป็นข้อเตือนใจให้ชาวพุทธทั้งหลายประพฤติตนเป็นผู้ว่าง่าย และรู้จักรักษาความสามัคคี ย้อนไปในสมัยพุทธกาล พระภิกษุในวัดโฆสิตาราม กรุงโกสัมพี ทะเลาะวิวาทกัน แม้พระพุทธองค์ปรามแล้ว ก็ยังไม่ลงแก่กัน พระพุทธเจ้าทรงระอาพระทัยกับเหล่าภิกษุผู้ประพฤติตนเป็นผู้สอนยาก เสด็จจำพรรษาโดยลำพังในป่าแถบหมู่บ้านปาลิเลยยกะและไม่อนุญาติให้ใครเข้าเฝ้า ในการนั้นมีเพียงพญาช้างปาลิเลยยกะคอยปรนนิบัติ และลิงที่นำรวงผึ้งไปถวาย จวบจนสิ้นพรรษา บรรดาพระภิกษุผู้ว่ายากเมื่อทราบว่าพระพุทธองค์เสด็จกลับมายังพระเชตวันมหาวิหาร ก็รีบเดินทางมาเข้าเฝ้าเพื่อแสดงความสำนึกผิด

อุทยานแห่งศรัทธา

พระพุทธรูปนอนบรรทมตะแคงเบื้องขวาหลับพระเนตรที่อยู่ในวิหารนี้ชวนให้ผู้มาเยือนน้อมใจรำลึกถึงการเสด็จดับขันธ์ปรินิพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย หนึ่งในสี่สังเวชนียสถานของพุทธศาสนิกชน ที่บริเวณฐานองค์พระมีรูปนูนสูง พระอานนท์ร้องไห้ ในขณะที่พระอนุรุทธเข้าฌานติดตามว่าพระพุทธองค์ว่าอยู่ในฌานขั้นไหนก่อนปรินิพพาน และราชนิกุลราชวงศ์มัลละถวายบังคมพระพุทธสรีระ

อุทยานแห่งศรัทธา

ทันทีที่มาถึงวัด เราจะเห็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาวเด่นสง่าบนฐานดอกบัวชมพู หลวงปู่ขาวเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่องค์แรกของวัด ในยามเช้าชาวบ้านจะเตรียมอาหารมารอใส่บาตรพระสงฆ์ที่บริเวณนี้ เวลาอากาศดี เราสามารถมาศึกษาพุทธประวัติจากภาพพิมพ์บนกระเบื้องเคลือบอันงดงามบนกำแพงวิหารและฐานองค์พระ

อุทยานแห่งศรัทธา

เมื่อผ่านช้างคู่หน้าทางเข้าวิหาร จะเห็นพระพุทธเจ้าน้อยสีทององค์ใหญ่ยืนอยู่บนดอกบัว หนึ่งพระหัตถ์ชี้ขึ้นฟ้า อีกหัตถ์ชี้ลงดิน พร้อมเปล่งวาจาอันองอาจว่า “เราเป็นผู้เลิศในโลก เราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้การเกิดใหม่มิได้มี” วิหารพระพุทธเจ้าปางประสูติที่คนในวัดเรียกอย่างคุ้นเคยว่า เบบี้บูด้า เป็นดั่งตัวแทนของลุมพินีวัน ที่แคว้นอูธ ประเทศเนปาล หนึ่งในสี่สังเวชนียสถานสำคัญของชาวพุทธ

อุทยานแห่งศรัทธา

ทุกวันพระใหญ่ และค่ำวันส่งท้ายปี พุทธศาสนิกชนจะพร้อมใจหลั่งไหลมาเดินเวียนเทียน หรือสวดมนต์ข้ามปีที่ลานต้นสาละโดยมีหลวงปู่ใหญ่ปางลีลาเป็นจุดศูนย์กลาง พระพุทธรูปที่มีความสูงถึง ๒๐ เมตรองค์นี้ได้รับนามประทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ว่าพระพุทธลีลาวิลาศ

อุทยานแห่งศรัทธา

เมื่อคราวที่หลวงพ่อกล้วยเดินทางไปประเทศจีน องค์หลวงพ่อได้นำรูปพระศรีอริยเมตไตรยที่นอนยิ้มแย้มแจ่มใสบนถุงเงินถุงทองกลับมาเป็นต้นแบบให้คนวัดช่วยกันสร้างขึ้น แม้พระศรีอริยเมตไตรยองค์นี้จะเป็นศิลปะแบบจีน แต่หลวงพ่อได้เติมรอยยิ้มแบบไทยๆไว้บนพัด ด้วยข้อความ “มั่งมี ศรีสุข ทุกคนเล๊ย”

อุทยานแห่งศรัทธา

พระธรรมจักร หรือกงล้อธรรม ประดิษฐานที่วิหารธรรมจักรในสวนมะลิวัลย์ วิหารนี้เป็นวิหารแห่งเดียวที่ไม่มีรูปพระพุทธเจ้า แต่กลับมีเพียงสองในองค์สามแห่งพระรัตนตรัยคือ พระธรรมจักรอันเป็นสัญลักษณ์ของพระธรรม และรูปสำริดหลวงพ่อกล้วยเพื่อเป็นตัวแทนพระสงฆ์ นี่คือปริศนาธรรมเชื้อเชิญให้ผู้ที่มาเยือน สัมผัสให้ถึงองค์สามแห่งพระรัตนตรัยที่กายที่ใจตน ดังพุทธพจน์ที่ว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา”

อุทยานแห่งศรัทธา