Category: <span>ของฝากจากหลวงพ่อ</span>

“แต่ละวันๆ เรามีความขยัน ความรับผิดชอบ มีการฝักใฝ่ มีการสนใจ ละอาย เกรงกลัวต่อบาป ละอกุศล เจริญกุศล ให้มีให้เกิดขึ้น พยายามน้อมเข้าไปศึกษา น้อมเข้าไปใส่ใจของเราตั้งแต่เล็กๆ โตขึ้นมาจากเด็กเล็ก เด็กโต ได้รับการศึกษา ได้รับการเล่าเรียนขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ ค่อยสร้างสะสมคุณงามความดีไปเรื่อยๆ จนกระทั่งการพัฒนากำลังสติกำลังปัญญา

ใจที่ปกติเป็นอย่างไร ใจที่สะอาดเป็นอย่างไร ใจที่ไม่มีกิเลสเป็นอย่างไร ใจที่คลายจากขันธ์ห้าเป็นลักษณะอย่างไร ปัญญาของเราต้องรู้แจ้งเห็นจริง ก่อนที่จะรู้เข้าไปถึงตรงนั้นก็ค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าจะทำปุ๊บมันจะได้ปั๊บ มันก็มีการพัฒนาจากเด็กเล็ก เด็กโต ได้รับการศึกษาเล่าเรียน ผ่านกาลผ่านเวลาอยู่ตลอดเวลา”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 23 พฤศจิกายน 2560

ของฝากจากหลวงพ่อ

“ทั้งพระทั้งชีก็พยายามขยันหมั่นเพียรกัน ย่อมจะเข้าถึงกันทุกคน ถ้ามองเห็นตามความเป็นจริงให้ปรากฏขึ้นที่ใจของเรา รู้แจ้งเห็นจริง การรู้แล้ว การเข้าใจแล้ว ใจจะไม่เอาเด็ดขาด การเกิดเป็นทุกข์ เป็นทาสกิเลสเป็นทุกข์ก็ไม่เอา เพียงแค่สมมติเราก็พยายามทำหน้าที่ของเราให้ดี ทั้งพระทั้งชีอยู่ร่วมกันหลายคนหลายท่าน ก็พยายามแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัว เราอะไรคือสมมติอะไรคือวิมุตติ โลกวัชชะ อะไรควร อะไรไม่ควร มีอะไรเราก็พยายามช่วยกัน ยังสมมุติของเราให้เกิดประโยชน์ พวกเราก็พลอยได้รับประโยชน์นั้นด้วย ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ประโยชน์โลกนี้ ประโยชน์โลกหน้า ทำอยู่ปัจจุบันให้ดี”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 17 พฤศจิกายน 2560

ของฝากจากหลวงพ่อ

“เพียงแค่การเจริญสติให้ต่อเนื่องเชื่อมโยง พวกเราก็ทำกันลำบาก วันหนึ่งมีกี่นาที นาทีหนึ่งมีกี่วินาที ขณะลมหายใจเข้าหายใจออก ทุกขณะจิต ตรงนี้แหละที่เราเรียกว่าปัจจุบัน จนกำลังสติของเราเป็นมหาสติ มหาปัญญา จนไม่ได้สร้าง จนเป็นเอง รู้เอง รู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก อะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน เราก็จะได้มองเห็นหนทางเดินของตัวเรา ก็ต้องพยายามกัน”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 19 พฤศจิกายน 2560

ของฝากจากหลวงพ่อ

“ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้า-หายใจออก พวกเราก็พยายามสร้างความรู้สึกรับรู้ให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นขึ้น ตั้งแต่ยังไม่ได้ลุกจากที่ ความรู้ตัวเวลาลมหายใจสัมผัสเข้า เขาเรียกว่าสติรู้กาย ลมหายใจสัมผัสออกก็เรียกว่าสติรู้กาย ถ้าเราไปบังคับการหายใจก็อึดอัด ถ้าเราไปเพ่งสมองส่วนบนก็จะตึงเครียด ถ้าเราเอาใจไปจดจ่ออยู่ที่ปลายจมูกของเรา หน้าอกก็จะแน่น เพียงแค่เรามีความรู้สึกรับรู้ของการหายใจเข้าออกให้เป็นธรรมชาติที่สุด ลมหายใจก็ไม่ได้ซื้อ แต่เราขาดการวิเคราะห์ ขาดการสังเกต ขาดการศึกษา ขาดการทำความเข้าใจ”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 19 พฤศจิกายน 2560

ของฝากจากหลวงพ่อ

“ปัญญาทางโลกทุกคนมีกันเต็มเปี่ยม บางคนก็มีมาก บางคนก็มีน้อย อันนั้นเป็นปัญญาที่เอาไปใช้กับสมมติ ไม่ใช่ปัญญาที่จะเข้าไปดับทุกข์ที่ใจได้ ไม่ใช่ปัญญาที่จะเข้าไปทำความเข้าใจได้ นอกจากการเจริญสติที่เข้าไปรู้เท่ารู้ทัน ทำความเข้าใจ ที่เป็นปัญญาของพระพุทธองค์ที่ท่านได้ค้นพบ เอามาเปิดเผยให้สัตว์โลกได้เดินตาม

การทำความเข้าใจเป็นลักษณะอย่างนี้ ใจที่ปราศจากกิเลสเป็นลักษณะอย่างนี้ ใจที่ไม่เกิดเป็นลักษณะอย่างนี้ คำว่าอัตตา-อนัตตาเป็นลักษณะอย่างไร คำว่าแยกรูปแยกนามเป็นลักษณะอย่างไร อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ในหลักธรรม เราดูรู้เท่ารู้ทันหรือไม่ อะไรคือสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา การเจริญสติ ถ้าไม่รู้จักเอาไปใช้ มันก็จะไม่ทำความเข้าใจ ไม่กระจ่าง ยิ่งไม่เข้าใจเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มความเพียรเป็นทวีคูณ”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 19 พฤศจิกายน 2560

ของฝากจากหลวงพ่อ

“ใจของเรานี้บริสุทธิ์มาแต่เดิม ความไม่เข้าใจ ความไม่รู้ ความหลง ความเกิด นั่นแหละเป็นกิเลสอันละเอียดที่สุด แล้วก็มาเป็นทาสของกิเลสอีก กิเลสหยาบกิเลสละเอียด ความทะเยอทะยานอยาก ทั้งความอยาก ทั้งความไม่อยาก ทั้งความยินดียินร้าย สารพัดเรื่อง มาสร้างขันธ์ห้าปิดกั้นตัวเอง เป็นทาสกิเลสต่อ แล้วก็เกิดต่อไม่จบไม่สิ้น

นอกจากปัญญาของพระพุทธองค์เท่านั้นแหละ ที่ค้นพบแล้วก็มาเปิดเผย มาจำแนกแจกแจง มาประกาศให้สัตว์โลกได้รู้ได้เห็น ว่าเป็นอย่างนี้ๆ แล้วก็มองเห็นหนทางเดิน ว่าเราจะได้กลับมาเกิดหรือไม่ได้กลับมาเกิดกัน”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 18 พฤศจิกายน 2560

ของฝากจากหลวงพ่อ

“ใครเห็นธรรม คนนั้นเห็นเรา ใครเห็นเรา คนนั้นเห็นธรรม คือเห็นใจตัวเรา แก้ไขใจตัวเรา พระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ ก็จะมาอยู่กับใจของเรา

พุทธะ ก็คือ ผู้รู้ รู้ใจของเรา ไม่ให้ใจของเราไปหลงไปเกิด ดับความเกิดขณะยังมีลมหายใจอยู่นี่แหละ มองเห็นหนทางเดินว่าเราจะได้กลับมาเกิดหรือไม่กลับมาเกิดกัน ให้รู้ให้เห็น ทำความเข้าใจให้ปรากฏท่านถึงบอกให้เชื่อ ไม่ให้เชื่อแบบงมงาย ให้เชื่อด้วยเหตุด้วยผล ด้วยสติด้วยปัญญา”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 18 พฤศจิกายน 2560

ของฝากจากหลวงพ่อ

“การทำบุญให้ทาน ตรงนี้ทุกคนมีกันเต็มเปี่ยม อยู่ใกล้อยู่ไกลก็ได้ไปทำร่วมกัน แต่การละกิเลส กิเลสเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เราก็พยายามดับ ทำในสิ่งตรงกันข้ามกับกิเลส

ใจเกิดความโลภก็ละความโลภ ด้วยการให้ด้วยการเอาออก ใจเกิดความโกรธก็ดับความโกรธด้วยการให้อภัยอโหสิกรรม ใจมีความเกียจคร้าน เราก็พยายามเพิ่มความขยันหมั่นเพียร มีวิริยะ มีความเพียร ความรู้ตัวของเรามันพลั้งเผลอ เราก็พยายามสร้างความรู้ตัวขึ้นมา เอามาใช้การใช้งาน จนเป็นอัตโนมัติในการดู ในการรู้ ยังสมมุติวิมุติภายในให้จบ คือดับความเกิด”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 25 ตุลาคม 2560

ของฝากจากหลวงพ่อ