Category: <span>ของฝากจากหลวงพ่อ</span>

“ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจ ที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน แล้วก็ให้ต่อเนื่อง ฟังไปด้วยน้อมสำเนียกไปด้วยหลวงพ่อเพียงแค่บอกแค่กล่าว แนะวิธีการแนวทางเท่านั้น พวกท่านจงพยายามพากันไปทำ

ลักษณะของการเจริญสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบัน เป็นลักษณะอย่างนี้ หมั่นตรวจสอบ หมั่นสังเกต การเกิดการดับของใจ การเกิดการดับของความคิด ว่าใจเกิดปรุงแต่งส่งไปภายนอกได้อย่างไร ความคิดผุดขึ้นมาปรุงแต่งใจของเรา ใจของเราเกิดไปรวมกับความคิดได้อย่างไร เราพยายามหัดสังเกต หัดสังเกต มีความรู้ตัว รู้ขณะลมหายใจเข้า รู้ขณะลมหายใจออก ให้เป็นธรรมชาติที่สุด

ถ้าเรามีความรู้ตัวที่ต่อเนื่อง ในหลักธรรมท่านเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’ มีความรู้ตัวทั่วพร้อมแล้วก็เอาไปใช้ เอาไปวิเคราะห์ การเกิดการดับของใจของเรา ให้รู้เท่า รู้ทันการเกิดการดับของใจของเรา”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 28 ก.พ. 2561

“ใจของเรามีความแข็งกระด้าง เราก็พยายามปรับสภาพใจของเรา ให้มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ใจของเรามีความโกรธเราก็พยายามดับความโกรธ ด้วยการให้อภัย อโหสิกรรมมองโลกในทางที่ดี คิดดีทำดี ใจของเราเกิดความโลภ เกิดความอยาก เราก็พยายามละด้วยการให้ ด้วยการเอาออก ด้วยการคลายเราหมั่นอบรมใจของเราบ่อยๆ เจริญสติเข้าไปอบรมใจของเราบ่อยๆ เราก็จะมองเห็นหนทางเดินสักวันหนึ่งจนได้

ก็ต้องพยายามกัน อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้ง เสียดายเวลา บุคคลมีบุญมีอานิสงส์ฟังนิดเดียว การเจริญสติเป็นอย่างนี้นะ การเอาสติปัญญาไปสังเกต ไปวิเคราะห์ เพียงแค่เรื่องหายใจเข้าหายใจออก พวกเราก็พยายามดูรู้ให้ต่อเนื่องให้เป็นธรรมชาติที่สุด ช่วงใหม่ๆนี้ก็อาจจะอึดอัด กิเลสมารต่างๆ เขาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะว่าเขาหลงมานาน เขาเกิดมานาน เขาเป็นเพื่อนกันมานาน เราต้องเจริญสติเข้าไปเห็นเหตุเห็นผล ตามดูเหตุดูผล ตามดูรู้ความเป็นจริง ชี้เหตุชี้ผล จนใจยอมรับความเป็นจริงได้นั่นหล่ะ ใจเขาถึงจะคลาย“

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 28 ก.พ. 2561

“มีไม่มาก ถ้าบุคคลมีความเพียร แต่มันมากสำหรับบุคคลที่ไม่มีความเพียร มากสำหรับบุคคลที่กิเลสยังหนาอยู่ กิเลสหนาเราก็คอยขัด คอยเกลา คอยเอาออก ค่อยวิเคราะห์ ค่อยพิจารณา สักวันหนึ่งเราก็คงจะมองเห็นตามความเป็นจริง เข้าใจในคำสอนของพระพุทธองค์ ปรากฏขึ้นที่ใจของเรา ท่านถึงบอกให้เชื่อ ก็ต้องพยายามกันนะ”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 28 ก.พ. 2561

“อย่าไปโทษคนอื่น จงโทษตัวเรา แก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเราอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนกระทั่งนอนหลับ จนกระทั่งหมดลมหายใจ ทั้งชีวิต เราต้องดูตัวเรา แก้ไขตัวเรา”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 28 ก.พ. 2561

“การเกิดเป็นทุกข์ เพียงแค่การเกิดท่านก็ว่าเป็นทุกข์แล้ว ทีนี้เกิดทางกายเนื้อ อัตตภาพร่างกายของเราก็คือก้อนทุกข์ บางคนบางท่านก็เรียกว่า ‘ก้อนกรรม’ บางคนบางท่านก็เรียกว่า ‘ก้อนธรรม’ การทำเรามาพลิกปัญญาโลกให้เป็นปัญญาธรรม มาทำความเข้าใจร่างกายของเราเปรียบเสมือนกับเรือ มีโอกาสที่จะทำความเข้าใจ อบรมใจของเราได้ขณะที่ยังอยู่ในร่างกาย ให้พยายามรีบเดินให้ถึงจุดหมายปลายทางให้เร็วให้ไว ก่อนที่ร่างกายของเราจะกลับคืนสู่สภาพเดิม คือ ดินน้ำลมไฟ หรือว่าตายนั่นแหละ ความตายไม่ได้เลือกกาลเลือกเวลา ความตายมีกันทุกเวลา สักวันหนึ่งเราก็คงจะได้ไป ถ้าไม่ถึงเวลาก็ไม่ได้ไป”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 4 พฤศจิกายน 2560

“ท่านถึงบอกว่า ตนเป็นที่พึ่งของตน ตนตัวแรก คือตัวสติที่เราสร้างขึ้นมา แล้วก็ไปแยกไปคลาย ชี้เหตุชี้ผล เห็นเหตุเห็นผล ตนตัวที่สองคือ ใจนี่แหละ ใจของเราทั้งหลงทั้งเกิด กว่าจะทำความเข้าใจ คลายออกให้มันได้หมดจดก็ต้องมีความเพียรเป็นเลิศ ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหน ยืนเดินนั่งนอน กินอยู่ขับถ่าย

กายทำหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร ก็ต้องพยายามกัน ได้ยินได้ฟังได้อ่าน การได้ศึกษาค้นคว้าแนวทางนั้น ทุกคนอาจจะไปศึกษามากันเยอะ แต่การลงมือปฏิบัติ การลงมือศึกษาค้นคว้า ด้วยการน้อมเข้าไปดูรู้การเกิดการดับภายในที่แท้จริงนั้น ต้องขึ้นอยู่ที่ตัวของเรา”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 13 กุมภาพันธ์ 2561

“เราต้องพยายามเจริญสติเข้าไปดูรู้เท่าทัน จนใจมองเห็นความเป็นจริง ยอมรับความเป็นจริงได้นั่นแหละ ใจเขาถึงจะปล่อยจะวางได้ เราก็อย่าพากันผัดวันประกันพรุ่ง อย่าพากันประมาท

พระเรา ชีเรา ทุกคน จุดมุ่งหมายปลายทางอันเดียวกันก็คือ ความไม่กลับมาเกิด แต่เราต้องพยายามเดินให้ถึงจุดหมาย เดินได้เท่าไหร่เราก็พยายามเดิน เดินด้วยสติ เดินด้วยปัญญา ทำความเข้าใจบ่อยๆ ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็อย่าไปทิ้งพยายามทำ เรื่องของเรา ทำหน้าที่ของเราให้ดี ทำหน้าที่ของเราให้จบ ขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 13 กุมภาพันธ์ 2561

“พระพุทธองค์ท่านให้เจริญสติลงที่กาย รู้เท่ารู้ทัน สังเกตวิเคราะห์จนใจของเราคลายออกจากความคิด หรือเรียกว่าแยกรูปแยกนาม สัมมาทิฏฐิความเห็นถูกอยู่ตรงนี้ เห็นถูกแล้วก็ทำความเข้าใจ แล้วก็ละกิเลสออกจากใจของเรา ละทั้งกิเลสหยาบกิเลสละเอียด ทำความเข้าใจทุกเรื่อง แล้วก็อยู่กับสมมติ เคารพสมมติ ไม่ยึดติดสมมติ

พูดง่ายอยู่นะ แต่การกระทำ การลงมือ การวิเคราะห์ ต้องเป็นบุคคลที่มีความเพียรเป็นเลิศ มีความเพียรขยันหมั่นเพียรทั้งสมมุติทั้งวิมุตติ แล้วก็มองโลกในทางที่ดี คิดดี แล้วรีบตักตวงสร้างบุญสร้างอานิสงส์ให้มีให้เกิดขึ้นที่กายที่ใจของเรา ขณะยังมีกำลังอยู่ ถ้าหมดลมหายใจก็มีแต่เรื่องบุญเรื่องบาป”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 13 กุมภาพันธ์ 2561

“ในหลักธรรมท่านให้ละบาป หรือว่าละอกุศล เจริญกุศล เห็นเหตุเห็นผล ชี้เหตุชี้ผล ว่าอะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน หมั่นเจริญสติเข้าไปพร่ำสอนใจของเราอยู่ตลอดเวลา แล้วก็สร้างตบะบารมี

ใจเกิด เราก็ดับความเกิด ใจเกิดความโลภ ก็ละความโลภ ละความตระหนี่เหนียวแน่นออกจากใจของเรา ใจเกิดความโกรธ ก็พยายามละความโกรธด้วยการให้อภัย ด้วยอโหสิกรรม ทำในสิ่งตรงกันข้าม”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 13 กุมภาพันธ์ 2561

“ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา เราได้สร้างความรู้ตัว เราได้เจริญสติ แล้วก็รู้จักทำความเข้าใจ เอาสติปัญญาของเราอบรมใจของเราได้แล้วหรือยัง หัดสังเกต หัดวิเคราะห์ ดูรู้ให้ทันความเกิดความดับของวิญญาณในกายของเรา หรือว่าความคิดนั่นแหละ เขาเกิดอย่างไร เขาตั้งอยู่อย่างไร ทำไมเขาถึงเกิด ทำไมเขาถึงหลง

ความหลงนี้มีกี่ชั้น มีหลายชั้น หลงมาตั้งแต่ยังไม่ได้เกิด ทำไมถึงพูดอย่างงั้น เพราะว่าจิตวิญญาณแต่ละดวงถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด แต่หลงมาเกิดอยู่ในภพมนุษย์ มาสร้างขันธ์ห้า คำว่าขันธ์ห้าก็กายของเรา ส่วนกายส่วนรูปนี้แหละ แล้วก็มายึดติด ยึดติดขันธ์ห้าตัวนี้ยังไม่พอ แล้วก็เป็นทาสกิเลสอีก กิเลสความทะเยอทะยานอยาก ทั้งอยากทั้งไม่อยาก เป็นทาสของความเกิด วนเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพน้อยภพใหญ่”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 13 กุมภาพันธ์ 2561