Category: <span>ของฝากจากหลวงพ่อ</span>

“ถ้าความรู้ตัวของเราเข้มแข็งขึ้น เราก็จะล้วงลึกลงไป เห็นการเกิดการดับของใจ ใจที่เกิดปรุงแต่งส่งไปภายนอก อาการเริ่มเกิด เขาจะเกิดอย่างไร เราก็อาจจะรู้เท่าทันความคิดที่ผุดขึ้นมาปรุงแต่งใจ ซึ่งภาษาธรรมะท่านเรียกว่า ‘อาการของขันธ์ห้า’ มีอยู่แล้ว ทั้งใจทั้งขันธ์ห้านี้มีมาตั้งแต่เกิด เรามาสร้างความรู้ตัวตัวใหม่เข้าไปวิเคราะห์ เข้าไปสังเกตให้ทัน รู้ไม่ทันเราก็รู้จักดับ

การสร้างความรู้ตัวนี่แหละ เขาเรียกว่า ‘ความเพียร’ ความเพียรให้ต่อเนื่อง รู้จักอดทนอดกลั้น รู้จักเพิ่มตบะ สร้างความเพียร ไม่ปล่อยปละละเลย รู้จักแก้ไขตัวเรา

ขณะนี้ใจของเราปกติ ใจของเราสงบ ใจของเรามีความอ่อนน้อมถ่อมตน เราก็พยายามแก้ไข พยายามสร้างคุณงามความดี สร้างประโยชน์ให้มีให้เกิดขึ้นที่กายที่ใจของเราขณะที่เรายังมีลมหายใจอยู่ อย่าพากันผัดวันประกันพรุ่ง”

“พยายามอย่าไปทิ้งบุญ พยายาม อยู่ที่ไหนก็ให้ทำ บุญมากบุญน้อยก็เป็นอานิสงส์ของตัวเรา อยู่ใกล้อยู่ไกล ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ทำประโยชน์ภายในของเราให้จบ คือทำใจของเราให้สะอาด ให้บริสุทธิ์ ให้หลุดพ้น ขณะที่เรายังมีกำลังอยู่ ก็ต้องพยายามกัน”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 14 กุมภาพันธ์ 2561

“พระพุทธองค์ท่านสอนชีวิต สอนเรื่องชีวิต สอนเรื่องของเรา ท่านสอนให้รู้จักดูตัวเรา แก้ไขตัวเรา อะไรคือเรา อะไรคือสติปัญญา ที่ท่านบอกว่าตนเป็นที่พึ่งของตน

ความรู้ตัวอยู่ปัจจุบันเราต้องสร้างขึ้นมา แล้วรู้จักเอาไปใช้ เอาไปวิเคราะห์ใจ จนเห็นการแยกการคลาย เข้าใจในคำสอนของพระพุทธองค์ คำว่า อัตตา อนัตตา เป็นอย่างไร สมมติ วิมุตติเป็นอย่างไร อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ในขันธ์ห้าของเราเป็นอย่างไร กายของเราทำหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร

เราต้องมีปัญญาที่เราสร้างขึ้นมานี่แหละ เข้าไปชี้เหตุชี้ผล เห็นเหตุเห็นผล ไม่ใช่ว่าศรัทธาแบบไม่รู้ความเป็นจริง”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 14 กุมภาพันธ์ 2561

“เพียงแค่การเจริญสติก็พยายามทำให้ต่อเนื่องกัน ตั้งแต่ตื่นขึ้น จนกระทั่งเราเข้านอนนั่นแหละ แล้วก็พยายามทำให้ต่อเนื่องจนเป็นอัตโนมัติ จนเอาไปใช้การใช้งานได้ตลอด

สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่อง ให้ชัดเจนกันสักนิดนึงก็ยังดี ดีกว่าไม่ทำ ทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกัน”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 14 กุมภาพันธ์ 2561

“ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว การสูดลมหายใจยาว กายของเราก็รู้สึกว่าสบายขึ้นเยอะ ใจของเราก็จะสงบตั้งมั่นขึ้น ความรู้สึกสัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้ากระทบปลายจมูกของเรา อันนี้เขาเรียกว่า’สติรู้กาย’ ไม่ต้องเอาใจไปจดจ่อนะ ถ้าเราเอาใจไปจดจ่อหน้าอกก็จะแน่น ถ้าเราเอาสมองไปจดจ่อที่ปลายจมูก สมองก็จะตึง

เพียงแค่ให้มีความรู้สึกรับรู้เวลาหายใจเข้า มีความรู้สึกรับรู้อยู่ หายใจออกมีความรู้สึกรับรู้อยู่ เราพยายามสร้างความรู้สึกตรงนี้แหละให้มี ให้เกิดขึ้น แล้วก็พยายามสร้างให้ต่อเนื่อง ถ้าเราทำได้ต่อเนื่องก็เรียกว่า’ สัมปชัญญะ’ มีความรู้ตัวทั่วพร้อม”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 14 กุมภาพันธ์ 2561

“เหตุการณ์ต่างๆ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เป็นอาจารย์สอบเราอยู่ตลอดเวลา เรามีสติปัญญาคอยสังเกตใจของเรา ว่าสอบได้สอบตก นี่แหละ เราคอยวิเคราะห์ คอยสังเกต กายทำหน้าที่อย่างนี้ ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างนี้ ใจทำหน้าที่อย่างนี้ จะเอา จะมี จะเป็น ก็เป็นเรื่องของปัญญา ยังสมมุติ ยังปัจจัยสี่ ให้สมมุติไม่ให้ลำบากเท่านั้น หลังจากหมดลมหายใจ ทิ้งหมด!

เราปล่อยวางทั้งขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่ เราดูแลรักษา ยังประโยชน์สมมติ ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่านให้เต็มเปี่ยม บุคคลที่มีบุญก็จะรีบตักตวง รีบฝักใฝ่ รีบสนใจ ไม่ว่าบุญสมมติ ไม่ว่าบุญวิมุตติก็จะรีบสะสมเอาไว้”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 25 มกราคม 2561

“อาการของขันธ์ห้าผุดขึ้นมาปรุงแต่งใจ เราก็พยายามทำความเข้าใจแล้วก็ค่อยละ อันนี้แหล่ะเขาเรียกว่า ‘ละกรรม’ กรรมเก่าคืออาการของขันธ์ห้านี่แหละ กรรมมาปรุงแต่งใจของเราให้หมุนเป็นวงกลม เขาเรียกว่าวัฏจักร เขาเรียกว่าธรรมจักร นี่แหละตรงนี้แหละ ถ้าเราแยกได้เหมือนกับตัดวงกลมออก ถ้าเราไม่ตามดูรู้เห็นความเป็นจริงอีก เขาก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิมอีก

ทุกเรื่อง เป็นเรื่องที่เราจะต้องศึกษาค้นคว้า ไม่ว่าพระ ว่าโยม ว่าชี เราก็ต้องพยายาม อย่าให้คนอื่นได้บังคับ เราจงบังคับตัวเรา อะไรผิดพลาดก็รีบแก้ไข ตื่นขึ้นมาความคิดเกิดสักกี่ครั้ง ความโลภ ความโกรธ ความอยาก เกิดสักกี่ครั้ง”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 25 มกราคม 2561

ภาพ: Super Blue Blood Moon ในวันที่ 31 มกราคม 2561

“ใจของเรามาหลงมายึดเอาทุกอย่าง ปัญญาสมมติเราก็ว่าเราไม่หลง ในหลักธรรมแล้วยังหลงอยู่ หลงตั้งแต่ยังไม่ได้เกิด ถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด เกิดทางด้านจิตวิญญาณ ความเกิดของจิตวิญญาณนั่นแหละ หลงชั้นแรกเลยทีเดียว แล้วก็มาสร้างภพมนุษย์ มาสร้างขันธ์ห้า แล้วก็มายึดติดขันธ์ห้าอีก แล้วก็มาเป็นทาสของกิเลสอีก

กิเลสก็มีหลายอย่าง กิเลสหยาบกิเลสละเอียด ความโลภ ความโกรธ ความหลงนี่เป็นตัวละเอียด ถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด เรามาหัดวิเคราะห์ พิจารณา หมั่นพร่ำสอนใจของเราอยู่ตลอดอยู่บ่อยๆ อยู่ทุกเวลา การเกิดเขาเป็นอย่างไร เขามีกิเลสหรือไม่ เราดับความเกิดได้ระดับไหน เราขัดเกลากิเลสของเราได้ระดับไหน เราก็ต้องดู”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 25 มกราคม 2561

“อะไรคือปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา คนเราทั่วไปนี้เกิดมาด้วยความหลง ถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด ความหลงอันลุ่มลึกคือความเกิด การเกิดของใจ ท่านถึงว่า ความไม่เที่ยงมันเป็นทุกข์ อนิจจังที่ท่านว่าไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ แล้วก็มายึดมาติดเอาไว้ ก็เลยมาเป็นขัง เวลามันจบปล่อยวางลงไปก็เป็นอนัตตา ความว่างเปล่า”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 25 มกราคม 2561

“เราจะเอาตั้งแต่ธรรม ปฏิบัติจะเอาตั้งแต่ธรรม กิเลสเราไม่ได้ละ มันก็ยากที่จะเข้าถึงความบริสุทธิ์ เราจะเอาธรรม มีแต่ความเกียจคร้าน ความขยันหมั่นเพียรไม่มี ความรับผิดชอบไม่มี มันก็ยากที่จะเข้าถึง เราก็ต้องพยายาม มีความเพียรทุกอย่าง ไม่ว่าฆราวาส ไม่ว่าพระว่าชี เพราะว่าทุกอย่างเขาเกื้อหนุนกันหมด

ความเป็นอยู่สมมติ ถ้าสมมติไม่สมบูรณ์ สมมติไม่เพียงพอ ทางกายสมมติก็ลำบาก ที่พักไม่สะดวกสบาย ที่อยู่ที่กิน ที่ถ่ายที่เยี่ยว ความเป็นอยู่นั่นแหละ เขาเรียกว่าสมมติ ถ้าสิ่งพวกนี้มีความพร้อม การฝึกหัดปฏิบัติใจก็จะไปได้เร็วได้ไว”

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
โอวาทยามเช้า 25 มกราคม 2561